โปรอินโดฯ แชมป์ “สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น 2023”

BY N ON May Sun, 2023 17:22

โปรอินโดฯ แชมป์ “สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น 2023”

นาราจี รามาดาน ปุตรา โปรชาวอินโดนีเซีย คว้าแชมป์กอล์ฟ สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น 2023 พร้อมรับเงินรางวัล 6 แสนบาท หลังจากพายุฝนกระหน่ำหนักจนไม่สามารถแข่งรอบสุดท้ายได้เสร็จสิ้น ต้องตัดสินโดยใช้สกอร์ 3 วันแรก ณ สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566

การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2023 โคแซงชั่น เอเชียนดีเวลล็อปเม้นท์ทัวร์ (เอดีที) จากการสนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนจัดแข่งขันรายการ "สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น” ชิงเงินรางวัลรวม 4 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 25-28 พฤษภาคม 2566 ณ สนามลากูน่า กอล์ฟ ภูเก็ต ระยะ 6,697 หลา พาร์ 70 จ.ภูเก็ต นับเป็นรายการที่ห้าของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ฤดูกาล 2023 ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 600,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก

การแข่งขันรอบสุดท้าย มีพายุกระหน่ำหนักจนไม่สามารถแข่งรอบสุดท้ายได้เสร็จสิ้น ทำให้ต้องตัดสินโดยใช้สกอร์ 3 วันแรก โดย นาราจี รามาดาน ปุตรา อดีตนักกอล์ฟทีมชาติอินโดนีเซียซึ่งจบรอบสามสกอร์รวม 15 อันเดอร์ คว้าแชมป์ไปครอง ซึ่งเป็นแชมป์แรกในออลไทยแลนด์ฯ และแชมป์ที่ 3 ในเอดีที นอกจากนั้นแล้ว นาราจี ยังเป็นนักกอล์ฟต่างชาติคนที่ 2 ที่ได้แชมป์รายการนี้ต่อจาก มิเกล คาร์บัลโล่ โปรชาวอาร์เจนไตน์ และคนที่ 10 ที่ได้แชมป์ในประวัติศาสตร์ออลไทยแลนด์ฯ อีกด้วย

“โปรโจ๊ก” ชัพชัย นิราช ได้รองแชมป์ที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์ รับเงินรางวัล 380,000 บาท และอันดับสาม ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ สกอร์รวม 11 อันเดอร์ รับเงินรางวัล 220,000 บาท ทั้งนี้ ในการเล่น 8 หลุมแรกของรอบสุดท้ายนั้น นาราจี ทำสกอร์นำห่างอันดับสอง 4 สโตรก ขณะที่ ชัพชัย นิราช และภูมิ หล่นไปอยู่ที่ 7 ร่วม ก่อนที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันในรอบนี้

นาราจี ซึ่งคว้าแชมป์อาชีพรายการที่ 3 หลังจากเทิร์นโปรเมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้เขาได้แชมป์ในวันนี้ก็เพราะได้เรียนรู้จากการเล่นที่ผ่านมา “คงเป็นเพราะผมได้เรียนรู้จากการเล่นในเอเชียนทัวร์ซึ่งตอนนี้ยังไม่ผ่านตัดตัวเลย ผมเรียนรู้ตลอดทั้งในและนอกสนาม ดีใจมากที่ทำได้ในวันนี้” นาราจีซึ่งลงเล่นที่ภูเก็ตเป็นครั้งแรก กล่าว “ผมชอบภูเก็ตซึ่งคล้ายๆ กับบาหลีคือเป็นเมืองท่องเที่ยว และอาหารอร่อย”

ส่วนอันดับ 4 ร่วม ที่สกอร์รวม 10 อันเดอร์ ได้แก่ รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์, อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์, นพรัฐ พานิชผล, ยี่ หวอเชง (จีน) และ แจ็ค เมอร์ด็อค (ออสเตรเลีย) รับเงินรางวัลคนละ 118,800 บาท, เอกปริษฐิ์ หวู่ และ อติรุจ วินัยเจริญชัย จบอันดับ 9 ร่วม รับเงินรางวัลคนละ 81,500 บาท, สิรภพ ยะปาละ ที่ได้รางวัลนักกอล์ฟสมัครเล่นดีเล่นเมื่อปีที่แล้ว ลงเล่นในฐานะนักกอล์ฟอาชีพปีนี้จบที่อันดับ 11 ร่วม เช่นเดียวกับ โคสุเก ฮามาโมโต้ ที่สกอร์รวมคนละ 8 อันเดอร์ รับคนละ 72,600 บาท, ฉ่างไท้ สุดโสม ผู้นำในอันดับทำเงินออลไทยแลนด์ฯ 2023, “แชมป์เก่า” วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง และ อานน ว่องวาณิช จบที่ 13 ร่วม สกอร์รวม 7 อันเดอร์ รับคนละ 62,400 บาท โดยจบรายการนี้ ฉ่างไท้ ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำในอันดับทำเงินที่จำนวน 892,750 บาท

“ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน ซึ่งเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นเพียงรายเดียวที่ผ่านตัดตัว จบที่อันดับ 34 ร่วม สกอร์รวม 3 อันเดอร์ รับรางวัล “ศุภพร มาพึ่งพงศ์”

สำหรับรายการต่อไปของออลไทยแลนด์ฯ 2023 จะเป็นการแข่งขัน สิงห์ เชียงใหม่ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนาม แม่โจ้ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา วันที่ 8-11 มิถุนายน 2566