“ธนภัทร” คว้าแชมป์ขาดลอย 9 สโตรก “สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส” ครั้งที่ 24

BY N ON November Sun, 2023 17:57

“ธนภัทร” คว้าแชมป์ขาดลอย 9 สโตรก “สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส” ครั้งที่ 24

“โปรเป้ง” ธนภัทร  พิชัยกุล วัย 24 ปี คว้าแชมป์ “สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส” ครั้งที่ 24 พร้อมเงินรางวัล 750,000 บาท ณ สนามสันติบุรี คันทรี คลับ ระยะ 7,112 หลา พาร์ 72 จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566

การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2023 จากการสนับสนุนโดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุน จัดแข่งขันรายการ "สิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส ครั้งที่ 24” ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 23-26 พฤศจิกายน 2566 ณ สนามสันติบุรี คันทรี คลับ ระยะ 7,112 หลา พาร์ 72 จังหวัดเชียงราย นับเป็นรายการที่สิบสองของออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ ฤดูกาล 2023 ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 750,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก

ในรอบสุดท้าย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 “โปรเป้ง” ธนภัทร  พิชัยกุล วัย 24 ปี จากกรุงเทพฯ ทำเพิ่มรอบสุดท้าย 4 อันเดอร์ จาก 6 เบอร์ดี้ 2 โบกี้ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 23 อันเดอร์ โดยมี นักกอล์ฟสมัครเล่น “ทีเค” รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ ซึ่งรอบสุดท้ายตี 3 โอเวอร์ จบอันดับสองสกอร์รวม 14 อันเดอร์ ในรายการที่ 12 ของออลไทยแลนด์ฯ 2023 ซึ่งชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท นับเป็นแชมป์ในการเล่นอาชีพรายการของแรกธนภัทร หลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้แชมป์รายการ สิงห์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่น ซึ่งนอกจากเงินรางวัลจำนวน 750,000 บาท แชมป์ครั้งนี้ยังจะทำให้ ธนภัทร ได้เล่นในทัวร์ต่อถึงปี 2026 ขณะที่ "ทีเค" รัชชานนท์ รับรางวัล "ศุภภร พาพึ่งพงศ์" ซึ่งมอบให้กับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มีผลงานดีที่สุด เป็นรายการที่ 2 หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคม ทำได้ในรายการ สิงห์ ลากูน่า ภูเก็ต โอเพ่น

ธนภัทร ซึ่งเพิ่งจะอายุครบ 24 ปี เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ยอมรับว่า ก่อนการเล่นรายการนี้ไม่ได้มีความมั่นใจมากนักเพราะว่าฟอร์มการเล่นในช่วงนี้และค่อยดี และเตรียมวางแผนที่จะหยุดเล่นในปีหน้า อย่างไรก็ตาม การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้มั่นใจและพร้อมจะสู้ต่อไป “จริงๆ คิดว่าแข่งแมตช์นี้ ตามด้วยแมตช์ไต้หวัน และไทยแลนด์ โอเพ่น แบบไม่มีความกดดันแล้ว ปีหน้าก็อาจจะพัก 1 ปี แบบไม่แข่ง แต่ตอนนี้ก็ทำได้แล้ว ก็จะสู้ต่อครับ” ธนภัทร กล่าวพร้อมบอกว่า เคล็ดลับของการกลับมาสู่แชมป์ได้อีกครั้งคือการปล่อยวางและเล่นให้สนุก “แชมป์นี้ทำให้ผมได้ความมั่นใจมากขึ้นเยอะครับ เพราะที่ผ่านมา 2 ปี ผมตีไม่ได้เลย มีปัญหาเยอะแยะ แต่ก่อนมาแมตช์นี้ ก็คิดว่าไม่มีอะไรจะต้องเสีย ปลดปล่อยทุกอย่าง และก็เล่นให้สนุก”

ทางด้าน อันดับ 3 ร่วมสกอร์รวมคนละ 13 อันเดอร์ เป็นของโปรสวีดิช ออสการ์ เซตเตอร์วอลล์ (70), ชัพชัย นิราศ (70), พรหม มีสวัสดิ์ (71) และสุรดิษ์ ยงค์เจริญชัย (73) โดยรับเงินรางวัลคนละ 278,750 บาท ส่วนอันดับ 7 เป็นของ กุณช์ธณัฎ พนดร ที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์ รับเงินรางวัล 133,750 บาท จณัตว์ สกุลพลไพศาล และกัมลาศ นาเมืองรักษ์ จบที่ 8 ร่วม สกอร์รวมคนละ 11 อันเดอร์ รับเงินรางวัลคนละ 112,500 บาท อันดับ 10 ร่วมที่สกอร์รวมคนละ 10 อันเดอร์ ได้แก่ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม, อาเมียร์ นาซริน, ธาวิท พลไทย, เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ รับเงินรางวัลคนละ 91,125 บาท ด้าน สุทธินนท์ ปัญโญ ทำ 3 อันเดอร์ จบที่ 17 ร่วม สกอร์รวม 8 อันเดอร์ ขณะที่ ขวัญชัย แท่นนิล ซึ่งจะป้องกันแชมป์ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ในเดือนหน้า  ทำรอบสุดท้าย 3 อันเดอร์ ขึ้นมาจบที่ 20 ร่วม สกอร์รวม 7 อันเดอร์ เช่นเดียวกับ อุดร ดวงเดชา (68) และ ธัญพิสิษฐ์ ออมสิน (72) โดยรับเงินรางวัลคนละ 61,500 บาท

รายการต่อไปจะเป็นการแข่งขัน “ไทยแลนด์ โอเพ่น” ครั้งที่ 51 ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นแมตช์ปิดฤดูกาลของออลไทยแลนด์ฯ 2023 ณ สนาม ริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธานี วันที่ 7-10 ธันวาคม 2566